คำกล่าวถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นายรัศมี ถิ่นขาม ผู้อำนวยการ โรงเรียนปทุมราชวงศา ผู้กราบบังคมทูล
วันที่ 12 สิงหาคม 2566
เนื่องในอภิลักขิตมหามงคลสมัย แห่งวันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ในวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2566 ข้าพระพุทธเจ้า นายรัศมี ถิ่นขาม ผู้อำนวยการ โรงเรียนปทุมราชวงศา ในนามของคณะผู้บริหาร ข้าราชการครู โรงเรียนปทุมราชวงศา มีความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในวันนี้
ปวงข้าพระพุทธเจ้าล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเป็นอเนกประการ เพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์และความอุดมสมบูรณ์แก่แผ่นดินตลอดมา พระราชกรณียกิจทั้งปวง จากการทรงงานเมื่อโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และจากการเสด็จพระราชดำเนินด้วยพระองค์เอง ได้นำไปสู่แนวพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของราษฎร โครงการพระราชดำริน้อยใหญ่ อันเกิดจากพระปรีชาสามารถของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ผลิดอกออกผลสร้างความผาสุกร่มเย็นแก่ปวงพสกนิกรจวบจนปัจจุบัน ครอบคลุมทั้งในด้านการสังคมสงเคราะห์อันเปี่ยมด้วยพระเมตตาเพื่อช่วยเหลือราษฎรผู้ยากไร้ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้คนอยู่ร่วมกับป่าในเขตพื้นที่อนุรักษ์ ตลอดจนการส่งเสริมศิลปาชีพในงานหัตถศิลป์หลากหลายแขนง ก่อให้เกิดการทำนุบำรุง สืบทอดงานศิลปะอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง จนศิลปะไทยอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของไทย สร้างชื่อเสียงเลื่องลือไกลไปยังนานาประเทศทั่วโลก พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้และน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาที่ทรงมีต่อปวงประชาประดุจดั่ง “แม่ของแผ่นดิน” ซึ่งจักจารึกแนบแน่นอยู่ในใจของปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรสืบไป
ในศุภวาระอันเป็นมิ่งมหามงคลนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากล อานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช และพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลประทานพรให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย พระเกียรติยศเกริกไกรแผ่ไพศาล สถิตยิ่งยืนนาน เป็นฉัตรแก้วร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าและผองพสกนิกรตราบกาลนิรันดร์ เทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
พระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
1) พระราชกรณียกิจด้านการส่งเสริมศิลปาชีพ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต
อาชีพ และความเป็นอยู่ของบุคคล ผู้ยากไร้และประชาชนในชนบทห่างไกล
พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้ก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ
ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และในปัจจุบันคือมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพและขณะเดียวกันยังอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้านที่มีความงดงามหลากหลายสาขา
เช่น การปั้น การทอ และการจักสาน
2) ด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ
โครงการ “บ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ” “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า
ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า”
พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ที่แสดงถึงพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะทรงงานด้านการอนุรักษ์ป่า
ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้าเพื่อสนับสนุนการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งน้ำ
เพื่อช่วยให้พสกนิกรชาวไทยมีน้ำเพียงพอต่อการดำรงชีพและการทาการเกษตร
ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
3) ด้านหัถตศิลป์
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
โปรดผ้าทอพื้นเมืองมาโดยตลอด
ทรงสนพระราชหฤทัยและทรงเล็งเห็นคุณค่าความงดงามอันมีเอกลักษณ์ของผ้าทอในท้องถิ่นไทย
ทรงสังเกตว่าหญิงชาวบ้านที่มารับเสด็จในโอกาสที่ตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิ
เบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่างๆ
ล้วนแต่งกายด้วยผ้าทอพื้นเมืองที่มีสีสันสวยงาม ทุกคนนุ่งซิ่นไหมมัดหมี่
ซึ่งมีความสวยงามต่างๆกัน ทอดพระเนตรด้วยความสน พระราชหฤทัยยิ่ง
จึงมีพระราชดาริว่า ควรจะส่งเสริมให้ราษฎรทอผ้าไหมมัดหมี่ไว้เป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว
นอกเหนือจากอาชีพเกษตรกรรม
4) ด้านการเกษตรและชลประทาน
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงเน้นในเรื่องของการค้นคว้า ทดลอง
และวิจัยหาพันธุ์พืชใหม่ๆ ทั้งพืชเศรษฐกิจ พืชสมุนไพร
รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช และพันธุ์สัตว์ต่างๆ
ที่เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งแต่ละโครงการจะเน้นให้สามารถนาไปปฏิบัติได้จริง
มีราคาถูก ใช้เทคโนโลยีง่าย ไม่สลับซับซ้อน เกษตรกรสามารถดาเนินการเองได้
นอกจากนี้ยังทรงพยายามไม่ให้เกษตรกรยึดติดกับพืชผลทางการเกษตรเพียงอย่างเดียว
เพราะอาจเกิดปัญหาอันเนื่องมาจากความแปรปรวนของสภาพดินฟ้าอากาศ
หรือความแปรปรวนทางการตลาด
แต่เกษตรกรควรจะมีรายได้จากด้านอื่นนอกเหนือไปจากการเกษตรเพิ่มขึ้นด้วย
เพื่อจะได้พึ่งตนเองได้ในระดับหนึ่ง
5) ด้านการสาธารณสุข
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นอกจากทรงช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยการจัด
“หน่วยแพทย์พระราชทาน” ตามเสด็จไปรักษาพยาบาลราษฎรในถิ่นทุรกันดารแล้ว
ยังทรงช่วยเหลือกลุ่มผู้ประสบภัยธรรมชาติ ทรงช่วยเหลือทหาร ตำรวจ
และราษฎรอาสาสมัครตามชายแดน ทรงริเริ่มจัดตั้ง “มูลนิธิสายใจไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์”
ในกรณีที่ทรงพบราษฎรเจ็บป่วยก็จะทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
ทรงอุปถัมภ์องค์กรการกุศล สมาคม มูลนิธิต่างๆ เป็นจำนวนมาก
6) ด้านการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
พระราชทาน พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
พระราชทานชุดอุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจแบบอากาศบริสุทธิ์ PAPR (Powered Air
Purifying Respirator) เพื่อใช้ในห้องผ่าตัดให้กับโรงพยาบาลต่างๆ
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนต่อไป